เปิดธุรกิจนวดในไทยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกันกับการ เซ้งร้านนวด เนื่องจาก มีกฎระเบียบหลายอย่างที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และยังต้องพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้ง การจัดการบุคลากร ตลอดจนการตลาดและการขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์
ก่อน เซ้นร้านนวด นี่คือ 5 อย่างที่คุณควรรู้
1. ต้องรู้ว่า "ทำไมเจ้าของเดิมถึงปล่อย เซ้งร้านนวด ?"
หนึ่งเหตุผลที่เราต้องรู้เลยคือทำไมเจ้าของเดิมที่ตัดสินใจไม่ทำธุรกิจนี้ต่อ เพราะหากเป็นเหตุผลที่เราแก้ไขได้ยาก เช่น 1. โลเคชั่นไม่ดี 2. ไม่มีที่จอดรถ 3. หมอนวดในร้านทะเลาะกันบ่อย 4. สถานที่มีเสียงรบกวนจากภายนอกเยอะ 5. ในอาคารมีสิ่งลี้ลับ หรือมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีสาง 6. เซ้งเพราะใกล้ช่วง low season ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้าจะน้อย เป็นต้น หากเหตุผลในการปล่อยเซ้งเป็นปัญหาที่ตัวคุณเองก็ไม่สามารถจะแก้ไขได้ คุณควรจะพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน มิเช่นนั้นแล้ว คุณก็จะประสบปัญหาเดียวกันกับเจ้าของเดิม
2. ตอบตัวเองให้ได้ว่า "เซ้งไปแล้วจะมีลูกค้าจริงๆไหม"
แน่นอนว่าเจ้าของเดิมที่ปล่อย เซ้งร้านนวด จะบอกคุณอยู่แล้วว่า “ร้านเขาลูกค้าเยอะตลอด มีรายได้ดีแน่นอน” เพราะเขาต้องการจะปล่อยเซ้ง แต่คุณควรจะพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณอาจจะลองไปเป็นลูกค้าด้วยตัวเอง ทั้งในวันธรรมดาและวันหยุด ทั้งช่วงเช้า กลางวัน และเย็น ให้ตัวคุณเองเห็นภาพที่ชัดมากขึ้นว่าร้านจะมีลูกค้าจริงๆไหม หรือคุณอาจจะต้องลองไป พูดคุยกับหมอนวดในร้านดู เพื่อถามเขาว่า เขาได้ประกันมือเท่าไหร่ ค่ามือเท่าไหร่ และทิปเท่าไหร่ ในแต่ละวัน เพื่อให้คุณสามารถประเมินได้เบื้องต้นว่ารายได้ของร้านเดิมอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
3. พูดคุยกับทีมงานเดิมของทางร้าน
หลายๆ ครั้ง ผู้ประกอบการจะปล่อยเซ้งพร้อมกับการที่มีทีมงานหมอนวด พนักงานต้อนรับ และผู้จัดการร้านให้ด้วย ดังนั้นเราควรจะไปสัมภาษณ์พูดคุยกับทีมงานเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ และเข้าใจถึงปัญหาในการทำงานที่ทีมงานเหล่านี้พบเจอ เพื่อประเมินตัวเองว่าเราจะสามารถรับมือ และแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้หรือเปล่าเมื่อเรามาเป็นเจ้าของกิจการเองแล้ว
4. ตรวจสอบเรื่องใบอนุญาตเปิดร้านนวด ก่อน เซ้งร้านนวด
หลังจากเซ้งไปแล้ว เจ้าของคนใหม่จะต้องไปยื่น “คำร้องขอเปลี่ยนชื่อ” ที่ระบุบนใบอนุญาตในการเปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กับกระทรวงสาธารณสุขให้มาเป็นชื่อตัวเอง ดังนั้นเราควรจะคุยกับเจ้าของร้านเดิมให้ดีว่าเขาขอใบอนุญาตมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ขอมานานแล้วหรือยัง และตอนที่ขอกับทางเจ้าหน้าที่ มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขตามคำแนะนำของทางเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากมี ทางเจ้าของเดิมได้ทำการแก้ไขไปแล้วหรือยัง
5. ศึกษาระบบบริหารร้านนวดของเจ้าของเดิม
ร้านนวดส่วนมากในเมืองไทยยังใช้กระดาษในการจดบันทึกรายการนวดของหมอนวดในแต่ละวันอยู่ และหลายๆร้านยังรับเงินสดจากลูกค้า และจ่ายเงินสดให้หมอนวดตอนสิ้นวัน ดังนั้น ข้อมูลด้านการเงินจะไม่ได้ถูกบันทึกอย่างเป็นระบบ มีโอกาสสูญหายและผิดพลาดสูง ในฐานะเจ้าของร้านที่จะเข้าไปเซ้ง หากทางเจ้าของเดิมมีระบบให้เราดูยอดขายและยอดรายจ่ายค่ามือหมอนวดได้ ข้อมูลเหล่านั้นจะช่วยให้เราวิเคราะห์ได้แม่นยำมากขึ้นถึงความคุ้มค่าในการลงทุน
อย่างไรก็ตามหากคุณกำลังจะเซ้งร้านแล้ว และทางร้านยังใช้กระดาษในการจดบันทึกรายการอยู่ ทางไทยแฮนด์อยากนำเสนอระบบบริหารร้านนวดที่ถูกออกแบบมาเพื่อร้านนวดโดยเฉพาะ สามารถจัดการรายรับ รายจ่ายค่าประกันมือ ค่ามือ ได้อย่างแม่นยำ โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียง ถึง 700 บาท/เดือน หากสนใจระบบบริหารจัดการร้านนวดสปา สามารถกรอกข้อมูลด้านล่าง และรอการติดต่อกลับไปของทางเจ้าหน้าที่ได้เลย
หลังจากเซ้งไปแล้ว เจ้าของคนใหม่จะต้องไปยื่นคำร้อง “ขอเปลี่ยนชื่อ” ที่ระบุใบอนุญาตในการเปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพกับกระทรวงสาธารณสุขให้มาเป็นชื่อตัวเอง ดังนั้นเราควรจะคุยกับเจ้าของร้านเดิมให้ดีว่าเขาขอใบอนุญาตมาอย่างถูกต้องหรือไม่ ขอมานานแล้วหรือยัง และตอนที่ขอกับทางเจ้าหน้าที่ มีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขตามคำแนะนำของทางเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากมี ทางเจ้าของเดิมได้ทำการแก้ไขไปแล้วหรือยัง
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้และยังมีความตั้งใจมุ่นมั่นที่จะเซ้งร้านนวด ทาง ThaiHand ขอเป็นกำลังใจและพร้อมสนับสนุนคุณในทุกขั้นตอนตั้งแต่การคิดแบรนด์ การทำแผนธุรกิจ การหาสถาปนิก ผู้รับเหมา การหาและการฝึกอบรมพนักงานนวด การติดตั้งระบบบริหารจัดการ ThaiHand POS รวมไปถึงการทำการตลาด สามารถให้ทาง ThaiHand Massage ให้คำปรึกษาแบบครบวงจรได้เช่นกัน
