อุตสาหกรรมการนวดและสปาในประเทศไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักจะมาสัมผัสบริการนวดแผนไทยและสปาเพื่อผ่อนคลายความเครียด แต่ในขณะเดียวกัน ธุรกิจนวดก็ยังประสบปัญหากับกลโกงที่เกิดขึ้นภายในร้าน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากทั้งหมอนวด ผู้จัดการร้าน และแม้กระทั่งเจ้าของร้านนวดเอง เราจะมาเปิดเผยกลโกงต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าของร้านและพนักงานระวังตัวและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น
หมอนวดโกงเจ้าของร้านยังไงบ้าง
หมอนวดเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการลูกค้า แต่ในบางกรณีอาจมีหมอนวดบางคนที่หาวิธีโกงเจ้าของร้านเพื่อเพิ่มรายได้หรือหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
ปิดบังจำนวนครั้งการนวดจริง: บางร้านที่ไม่มีผู้จัดการหรือพนักงานต้อนรับ ปล่อยให้หมอนวดบริหารกันเอง หมอนวดอาจไม่แจ้งจำนวนครั้งที่ให้บริการจริงแก่เจ้าของร้าน โดยจะรับเงินจากลูกค้าโดยตรงแล้วไม่ทำการบันทึกลงในระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงการหักเปอร์เซ็นต์รายได้
แอบขโมยของใช้ในร้าน: หมอนวดบางคนฉวยโอกาสขโมยของใช้ในร้านไปใช้ส่วนตัว เช่นผ้าขนหนู ผงสครับ ครีมนวดหน้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ในร้าน
ชักชวนลูกค้าให้นัดผ่านตัวเองโดยตรง: หมอนวดบางคนอาจสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและเสนอให้ลูกค้านัดหมายครั้งถัดไปผ่านตนเองโดยตรง แทนที่จะผ่านร้าน โดยอาจจะแอบเสนอบริการพิเศษให้กับลูกค้าโดยตรงโดยที่เจ้าของร้านไม่รู้
ผู้จัดการร้านก็โกงได้เหมือนกัน
ผู้จัดการร้านมีหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการร้าน ซึ่งต้องมีความซื่อสัตย์และโปร่งใส แต่ก็อาจมีบางกรณีที่ผู้จัดการร้านหาช่องทางในการโกงเจ้าของร้านเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
บันทึกข้อมูลผิดพลาดในบัญชี: ผู้จัดการร้านอาจบันทึกข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าไม่ตรงกับความจริง ทำให้จำนวนเงินที่ต้องส่งมอบให้เจ้าของร้านน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะร้านที่ไม่มีระบบบริหารจัดการร้านนวดโดยเฉพาะ และยังบันทึกข้อมูลลงกระดาษเป็นหลักอยู่
สมคบกับหมอนวด: ผู้จัดการร้านบางคนอาจทำข้อตกลงกับหมอนวดในการบันทึกจำนวนครั้งการนวดน้อยกว่าความเป็นจริง หรือเก็บเงินจากลูกค้าโดยไม่ผ่านระบบบันทึก
แอบเอาเงินสดของร้านไปหมุน: ธุรกิจร้านนวดเป็นธุรกิจที่มีเงินสดหมุนเวียนสูง เพราะลูกค้าส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายด้วยเงินสด ดังนั้นผู้จัดการร้านบางคนแอบฉวยโอกาสนำเงินสดของร้านไปหมุนใช้ส่วนตัว หรือแอบเอาไปปล่อยกู้นอกระบบก็มี หากเจ้าของร้านไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดก็จะเจอปัญหานี้ได้
เจ้าของร้านนวดโกงพนักงานก็มี
บางครั้งเจ้าของร้านนวดเองก็อาจเป็นฝ่ายที่ใช้กลโกงต่อพนักงานหรือหมอนวด เพื่อให้ได้รับผลกำไรมากขึ้น
ไม่จ่ายค่าแรงตามที่ตกลง: เจ้าของร้านอาจสัญญาว่าจะจ่ายค่ามือหรือคอมมิชชั่นตามที่ตกลงไว้ แต่เมื่อตอนสิ้นเดือนกลับจ่ายค่าแรงน้อยกว่าที่ตกลงหรือหักค่าใช้จ่ายโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
ไม่คืนเงินประกัน: บางครั้งเจ้าของร้านเก็บเงินประกันค่า Training หรือการปรับท่าให้เป็นมาตรฐานของร้าน โดยจะมีการคืนเงินเมื่อพ้นระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่เจ้าของร้านบางคนก็ไม่คืนเงินหมอนวดก็มี
ปรับเปลี่ยนเวลาทำงาน: เจ้าของร้านบางคนอาจบังคับให้พนักงานทำงานนานขึ้นหรือทำงานนอกเวลาที่ตกลงไว้ แต่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด หรือไม่ให้วันหยุด วันลา กับพนักงานตามสำหรับพนักงานประจำตามที่กฏหมายกำหนด
วิธีป้องกันการโกงในร้านนวดสปา
การป้องกันกลโกงที่อาจเกิดขึ้นภายในร้านนวดสามารถทำได้ด้วยการจัดการที่มีประสิทธิภาพและความโปร่งใสในการทำธุรกรรม
ใช้ระบบการบันทึกที่โปร่งใส: ควรใช้ระบบจัดการการนวดที่สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างละเอียดและป้องกันการโกง เช่น ระบบที่เชื่อมต่อกับการจองออนไลน์ การบันทึกจำนวนครั้งที่ให้บริการ และการตรวจสอบการใช้บริการเสริม
จัดการตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นประจำ: เจ้าของร้านควรมีการตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่ายและการทำธุรกรรมภายในร้านเป็นระยะ เพื่อป้องกันการบันทึกข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและไว้วางใจกับพนักงาน: การสร้างวัฒนธรรมที่โปร่งใสและมีความไว้วางใจกันในทีม จะช่วยลดโอกาสในการเกิดกลโกงในร้าน
การโกงภายในร้านนวดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายฝ่าย ซึ่งแต่ละกรณีมีผลกระทบที่ทำให้ทั้งเจ้าของร้านและพนักงานเสียประโยชน์ การรู้เท่าทันกลโกงเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของร้านสามารถป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจที่จะทำให้ทั้งร้านและพนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและเป็นสุข
ทางไทยแฮนด์ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการร้านนวดทุกคน และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้คำปรึกษาสำหรับคนที่กำลังจะเปิดร้านนวด หรือ เปิดร้านสปา ด้วยบริการให้คำปรึกษาครบวงจร
